หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ใครว่าของเก่าจะมีแต่ข้อตำหนิ ยุคนี้ต้องของเก่าเท่านั้นที่ยิ่งใช้ยิ่งดูดี เพราะนี่คืออีกวิธี ที่เราจะได้ช่วยกันรักษาโลกและสิ่งแวดล้อมด้วยกัน

ทุกอย่างรอบตัว
การนำของใช้แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ทำได้ทุกที่ อย่างในที่ทำงานนั่นไง ลองสอดส่องดู คุณจะเห็นเลยว่า ไหนเลยจะมีแฟ้มเอกสารที่นำกลั[มาใช้ต่อได้ แค่โละเอกสารที่หมดอายุทิ้ง กระดาษก็นำมาพิมพ์ซ้ำอีกหน้าได้ หรือซองเอกสารใช้แล้วที่แค่ปะหน้ากระดาษใหม่ให้ดูดี ก็สามารถใส่เอกสารที่ไม่เป็นทางการใช้ได้อีก

ไอเดียสร้างสรรค์
ก่อนทิ้งขยะใดๆ ในบ้าน ลองสร้างสรรค์ของใช้ชิ้นใหม่กันดูสิ อย่างกระป๋องคุกกี้ ที่เอามาทำกระป๋องใส่ของ ลังไข่กระดาษที่เอามาตบแต่งเป็นที่ใส่ต่างหู การนำกระดาษหนังสือพิมพ์มาห่อของขวัญ ฯลฯวิธีสนุกมีเยอะ แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วย


พกถุงส่วนตัว
เมื่อไปซื้อของตามตลาดหรือซูเปอร์มาเก็ต ลองเลี่ยงการรับถุงจากคนขาย แล้วพกถุงจากบ้านไปเอง(ถุงวัสดุอะไรก็ตามแต่) เพราะช่วยลดการเกิดขยะได้มาก และยังได้เอาของที่มีไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เสื้อผ้าอย่าทิ้ง
หาก เสื้อผ้าที่มีคับไป หรือหลวมไปเสียแล้ว อย่างนี้ต้องเอาไปบริจาคหรือมอบให้กับคนอื่นที่ใช้ได้้จะดีกว่า หรืออย่างน้อยๆ หากเก่าเกินกว่าจะบริจาคได้ ก็ลองนำมาทำเป็นผ้าขี้ริ้ว หรือผ้าเช็ดเท้า ตามเท่าที่สภาพจะเหมาะสม
ที่มา : http://www.sabai-arom.com/
 เซฟค่าใช้จ่ายออฟฟิศด้วยเทคนิคกรีน ๆ กันดีกว่า



 1. ทำเรื่องง่าย ๆ ให้เป็นนิสัย
วิธีการนี้ดูออกจะพื้น ๆ บ้าน ๆ แต่นับได้ว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีในการก้าวเข้าสู่เส้นทางออฟฟิศสีเขียวร่วมกัน คิดง่าย ๆ ว่าออฟฟิศก็เหมือนบ้านของเรา อยู่บ้านเราประหยัดพลังงานยังไง(อาจจะมีแรงจูงใจเรื่องตัวเลขในบิลค่าไฟมาเกี่ยวข้อง) อยู่ออฟฟิศเราก็ทำแบบนั้นแหละ ปิดไฟเมื่อเลิกงาน หรือเวลาที่ออกไปข้างนอกพร้อม ๆ กัน เช่น ตอนพักเที่ยง ปรับอุณหภูมิแอร์ที่ 25 องศาเซลเซียส ตั้งโหมดประหยัดพลังงานบนคอมพิวเตอร์และเครื่องปริ๊นท์ให้เร็วขึ้นเมื่อเปิดเครื่องทิ้งไว้แต่ไม่ได้ใช้งาน หรือปิดไปเลยในช่วงกินข้าวกลางวัน ช่วงที่ต้องเข้าประชุมแบบมาราธอน เรื่องง่าย ๆ แบบนี้แหละที่จะทำให้เจ้านายของคุณตื้นตั้นใจจนหน้าบานเลยทีเดียวเมื่อเห็นตัวเลขที่ลดลงในบิลค่าไฟ



 2. ปริ๊นท์ให้น้อยลง
ลด ละ เลิก การปริ๊นท์ทุกอย่างที่ขวางหน้า อาจจะติดตั้ง โปรแกรมปริ๊นท์ ที่ช่วยให้เราจัดการปริ๊นท์เฉพาะสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ชักชวนให้เพื่อนร่วมงานปริ๊นท์เฉพาะเอกสารที่จำเป็นจริง ๆ หรือหากอยากได้ข้อมูลบนหน้าเว็บเพจลองเปลี่ยนมาเซฟในรูปแบบของไฟล์ PDF เอาไว้อ่านในเครื่องแทน ค่ากระดาษรีมหนึ่ง ๆ ก็เกือบร้อยบาท ไหนจะค่าหมึกพิมพ์ ค่าไฟอีก หากเราช่วยกันปริ๊นท์เท่าที่จำเป็น ก็จะช่วยประหยัดเงินได้ไม่น้อย แถมยังมีเวลาไปทำอย่างอื่นได้อีก


 3. ใช้ร่วมกันก็ได้นะ
หาพื้นที่เล็ก ๆ สักที่สำหรับเก็บอุปกรณ์สำนักงานที่สามารถใช้ร่วมกันได้ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเจาะรูกระดาษ ที่เย็บกระดาษ กรรไกร ซองจดหมาย หรือแฟ้มต่าง ๆ เมื่อใช้เสร็จแล้วก็นำกลับมาไว้ที่เดิม ถ้าจะสั่งซื้ออุปกรณ์ใหม่ก็ขอให้แน่ใจว่าเราจำเป็นต้องใช้งานมันจริง ๆ


                                                   4. อัพของเก่าให้เป็นของใหม่
เดี๋ยวนี้คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ๆ ก็ขยันคลอดมายั่วกิเลสเราซะเหลือเกิน ยิ่งถ้าได้เห็นใครถอยมาใช้แล้ว แทบจะต้านทานแรงดึงดูดไม่ไหว แต่อย่าลืมว่าปัจจุบันนี้จำนวนขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาขยะล้นโลกไปแล้ว ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในฝันชิ้นใหม่ ลองหันกลับมาดูก่อนดีกว่ามั้ยว่าจริง ๆ แล้วโปรแกรมใดหรือสเปกเลอเลิศขนาดไหนที่จำเป็นต่อการทำงานของเรา อะไรที่สามารถอัพเกรดได้ก็อัพไปก่อนดีกว่า แม้จะเป็นการเปลี่ยนชิ้นส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าทุกคนคิดแต่จะเปลี่ยนใหม่ ๆ นอกจากจะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายที่อาจจะยังไม่จำเป็นต้องเสียแล้ว ยังเป็นตัวการสั่งสมขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้เพิ่มขึ้นไปอีก




 5. ใช้ประโยชน์จากพลังงานสะอาด
ถ้าออฟฟิศเรากำลังจะมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือซ่อมแซมอะไรใหม่ นั่นเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เปลี่ยนแปลงไปสู่วิถีสีเขียวครั้งใหญ่ อาทิ การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา เพื่อนำพลังงานสะอาดอย่างแสงอาทิตย์มาใช้ประโยชน์ หรือเปลี่ยนหลังคาเป็นแบบใส ๆ มีหน้าต่างเยอะ ๆ ให้แสงธรรมชาติลอดผ่านเข้ามาได้ วิธีนี้จะสามารถเซฟค่าไฟได้ในระยะยาวเลยทีเดียว หรือหากมีการตกแต่งภายในใหม่ ลองเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิลดูสิ



6.ทำงานที่บ้าน
อีกวิธีหนึ่งที่นอกจากจะกรีนแล้วยังช่วยลดรายจ่ายของออฟฟิศเราได้ไม่น้อยก็คือการทำงานอยู่กับบ้าน เพราะสามารถลดค่าใช้จ่ายสำนักงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำ ค่าไฟ ถ้าจำเป็นต้องติดต่อกันเรื่องงานก็ใช้อีเมล หรือโทรศัพท์ยกหูคุยกัน หรือจะประชุมกันผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ก็ยังได้ หากสามารถวางแผนให้ปิดออฟฟิศได้หนึ่งวันในแต่ละสัปดาห์ ก็จะช่วยประหยัดได้มากเลยทีเดียว เช่นอาจจะเพิ่มจำนวนชั่วโมงการทำงานในวันจันทร์-พฤหัสฯ เป็นวันละ 10 ชั่วโมง ส่วนวันศุกร์ก็ปิดออฟฟิศแยกย้ายกันไปทำงานที่บ้าน เราเองก็ไม่ต้องเสียค่าเดินทาง นั่งทำงานแบบกรีน ๆ อยู่ที่บ้านแทน

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2554

"ขยะล้นโลก"


                                                                     "ความจริงที่คนทั้งโลกไม่อยากเห็นหรือรับรู้"



                                          ส่วนนี้ก็เป็นเมืองอิเหนาใกล้บ้าเรานี่เอง "อินโดนีเซีย" แม่น้ำทั้งสายเต็มไปด้วยขยะมูลฝอยทุกประเภท

                                                                เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปินส์ แต่ครั้งนี้มาในมุมที่สยองยิ่งขึ้น


มุมไบ อินเดียกันค่ะ เมืองที่คนไม่คิดจะปลง จะทำให้ได้ปลง เพราะเพียงแค่ย่ำเท้าเข้ามาถึง คุณจะพบกับผู้คนมากมายที่มีวิถีชีวิตที่สะท้อนสัจธรรมของมนุษย์ไปทั้งหมด นั่นก็คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย รวย จน แค่มุมหนึ่งของถนนเล็กๆ ก็จะซึมซับได้ครบ


เมือง เนเปิล ประเทศอิตาลี เมืองที่คนทั่วโลกมองว่าสวยงาม โรแมนติก และศิวิไลซ์ แตที่จริงแล้วกลับประสบปัญหาวิกฤตขยะ เช่นเดียวกับเมืองอื่นๆ ทั่วโลก! เหตุผลหลักก็เพราะอุตสหากรรมการทำลายขยะอยู่ในความดูแลของมาเฟียท้องถิ่น ทำให้ทางรัฐเข้าไปแก้ปัญหาได้ยา




มุมไบ อินเดียกันค่ะ เมืองที่คนไม่คิดจะปลง จะทำให้ได้ปลง เพราะเพียงแค่ย่ำเท้าเข้ามาถึง คุณจะพบกับผู้คนมากมายที่มีวิถีชีวิตที่สะท้อนสัจธรรมของมนุษย์ไปทั้งหมด นั่นก็คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย รวย จน แค่มุมหนึ่งของถนนเล็กๆ ก็จะซึมซับได้คร

                                                                                               ประเทศ เซเนกัล ค่ะ